คอนติเนนทอลรายงานผลประกอบการดีต่อเนื่อง พร้อมเผยแผนผลิตเพิ่มรุกส่งออก


นายโธมัส แชมเบอรส์ กรรมการผู้จัดการบริษัทคอนติเนนทอล โอโตโมทีฟ (ประเทศไทย) เปิดเผยผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทคอนติเนนทอล ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของโลก ในช่วงครึ่งปีแรก 2554 ว่าผลประกอบการของคอนติเนนทอลในปี 2553 อยู่ในระดับยอดเยี่ยม และเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับปี 2554 โดยมีการเติบโต และความสามารถในการทำกำไรสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่

 

ทั้งนี้ ประมาณการเดิมคาดว่าในปี 2554 จะมียอดขายสูงกว่า 28.5 พันล้านยูโร แต่ประมาณการใหม่คาดว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 29.5 พันล้านยูโร และสัดส่วนอัตราส่วนกำไรก่อนหักภาษี  ประมาณร้อยละ 10 ซึ่งสูงกว่าอัตราส่วนร้อยละ 9.8 ใน ปีที่แล้ว


ครึ่งปีแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายถึงร้อยละ 17.6 เป็น 14.9 พันล้านยูโร และอัตราส่วนกำไรก่อนหักภาษี ถึงเกือบ 1.3 พันล้านยูโร ขณะที่ยอดขายในเอเชียในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยะ 21 ของยอดขายทั่วโลกของบริษัท

สำหรับธุรกิจในประเทศไทย คอนติเนนทอลประสบความสำเร็จในการสร้างงานในประเทศ ปัจจุบันมีพนักงานและลูกจ้างทั้งสิ้นมากกว่า 400 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่มีเพียง 50 คน ถึงร้อยละ 700


เขากล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ติดตั้งเครื่องจักรสำหรับระบบขับเคลื่อนที่โรงงานที่นิคมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง เพิ่มเติม เป็นเครื่องจักรในการผลิตชิ้นส่วน การทำความสะอาด การประกอบชิ้นส่วนและการทดสอบ และในปี 2555 บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตระบบหัวฉีด ที่โรงงานและเพิ่มสายการผลิตเพิ่มเติมด้วย ในปี 2555 โรงงานจะสามารถผลิตปั๊มแรงดันสูง 250,000 ชิ้นและ หัวฉีด 1,800,000 ชิ้น และจะเพิ่มขึ้นเป็นลำดับในปีต่อๆไป สำหรับการผลิตหัวฉีดจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่าร้อยละ 50 และสูงกว่าร้อยละ 45 สำหรับปั๊มแรงดันสูง

 

ในปี 2555 บริษัทมีงบลงทุนเพิ่มเติมอีก 450 ล้านบาท ในด้านการจัดซื้อเครื่องจักร โดยเป็นไปตามแผนการลงทุนรวมทั้งสิ้น ที่จะสูงถึง 5 พันล้านถายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า


ในด้านการขาย กรรมการผู้จัดการบริษัท กล่าวว่า บริษัทได้สร้างสมดุลด้วยการจัดตั้งแผนก เทรดดิ้ง บิสสิเนส ในเดือนมกราคมปีนี้ โดยมีผลการดำเนินงานในการสร้างยอดขายที่น่าพอใจมาก โดยสามารถจะส่งคำสั่งซื้อชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากโรงงานผลิตของกลุ่มคอนติเนนทอล 193 แห่งใน 37 ประเทศทั่วโลก


เขากล่าวว่า ในเดือนพฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา คอนติเนนทอลได้ส่งมอบชื้นส่วนระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เพียโซ ล็อตแรกให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศเป็นรายแรก และยังมีบริษัทผุ้ผลิตรถยนต์อีกหลายรายที่ได้เลือกใช้หัวฉีดระบบเดียวกันนี้ในรถยนต์ปิคอัพที่จะเปิดตัวในปี 2555

 

นอกจากนี้ ในอนาคต บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะเริ่มติดตั้งระบบวัดลมยางอัตโนมัติ (Tire Pressure Monitoring Systems; TPMS) ในรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในปี 2555-2557 

 

สำหรับลู่ทางในการส่งออกหัวฉีดเครื่องยนต์ดีเซล เพียโซ่ และปั๊มแรงดันสูงไปยังต่างประเทศเพิ่มเติมนั้น นายโธมัส กล่าวเปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างหารือกับสภาอุตวสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อเสนอให้มีการลดอัตราภาษีศุลกากรภายใต้กรอบการเจรจาการค้าเอฟทีเออินเดีย-ไทย สำหรับสินค้าชิ้นส่วนทั้ง 2 รายการลงเหลือร้อยละ 0 เพื่อให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ โดยหวังว่าการเจรจาในภาพรวมทั้งหมดจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในกำหนด คือ สิ้นปี 2554 นี้ โดยจะเป็นผลดีทั้งที่ทางฝั่งอินเดียได้ใช้ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง เพื่อช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ และการส่งออกจากไทยจะช่วยเพิ่มออเดอร์กับซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนรายย่อยแลเป็นการสร้างการจ้างงานอีกด้วย


*********************************************** 

กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น  เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำลำดับต้นๆ ของโลก  มียอดขายในปี 2553 มากกว่า 26 พันล้านยูโรในฐานะที่กลุ่มคอนติเนนทอล เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญ ได้แก่ ระบบเบรกแลชิ้นส่วน สำหรับระบบส่งกำลังและแชสซี หน้าปัดรถยนต์ อุปกรณ์เพิ่มความบันเทิงในรถยนต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในยานยนต์  ยางรถยนต์และยางสังเคราะห์ เป็นต้น กลุ่มคอนติเนนทอลมุ่งมั่นพัฒนาระบบและส่งเสริมให้เกิดความ ปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด อีกทั้งร่วมกันปกป้องสภาพแวดล้อมของโลกด้วย นอกจากนี้      คอนติเนนทอล ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งในการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารที่ใช้ในยานยนต์ ปัจจุบัน กลุ่มคอนติเนนทอล คอร์ปอเรชั่น มีพนักงานประมาณ 160,000 คน ในสำนักงานใน 45 ประเทศทั่วโลก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คอนติเนนทอล ไทร์ส ผนึก เคนโปร ออโต้สปอร์ต จัดงาน “Continental Retailer Seminar”

“เพียโซ คอมมอนเรล” เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง สะอาดและประหยัดพลังงานสำหรับรถยนต์และปิคอัพ นิวเจเนเรชั่น

นายกสมาคมประชาสัมพันธ์ไทย ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ